
โรคกระดูกพรุนเป็นโรคที่ความหนาแน่นและมวลของกระดูกลดน้อยลงจนทำให้กระดูกเสื่อม เปราะบาง ผิดรูป และมีโอกาสแตกหักได้ง่าย ในผู้ป่วยบางรายกระดูกพรุนมีผลให้ส่วนสูงลดลง เนื่องจากมวลกระดูกผุกร่อน ผลจากโรคกระดูกพรุนคือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก เนื่องจากกระดูกสามารถรับน้ำหนัก แรงกระแทก หรือแรงกดได้ลดลง
ผู้ที่ควรตรวจความหนาแน่นมวลกระดูก
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปี ขึ้นไป
- ผู้ที่เคยมีประวัติกระดูกหัก
- ผู้ที่ใช้ ยาสเตียรอยด์ เป็นเวลานาน
- ผู้ที่น้ำหนักตัวน้อยเกินเกณท์มาตราฐาน
- ผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย
- ผู้ที่หมดประจำเดือนเร็ว/เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน
ปัจจัยเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น เมื่ออายุเพิ่มขึ้น มวลกระดูกจะต้องลดลง เป็นผลให้เปราะบางและแตกหักง่ายหากถูกกระทบกระเทือนแม้ไม่รุนแรงก็ตาม
- ระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในเพศหญิงลดลง เมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ส่วนในเพศชายจะมีความเสี่ยงเกิดโรคกระดูกพรุนเมื่อมีการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) น้อยลง
- มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคกระดูกพรุน
- ความผิดปกติในการทำงานของต่อมและอวัยวะต่าง ๆ เช่น ต่อมไทรอยด์ ต่อมพาราไทรอยด์ ต่อมหมวกไต ไตและตับ
- โรคและการเจ็บป่วย เช่น โรคภูมิแพ้ตัวเอง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคมะเร็งกระดูก
- การบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในการสร้างกระดูก หรือกินอาหารที่ทำให้แคลเซียมเสียสมดุล
- การใช้ยาบางชนิดที่ออกฤทธิ์เร่งการสลาย หรือรบกวนการสร้างกระดูก เช่น กลุ่มยาสเตียรอยด์
ใครบ้างที่ไม่ควรตรวจความหนาแน่นมวลกระดูก
- ใครบ้างที่ไม่ควรตรวจ
- ผู้ที่เพิ่งเข้ารับการตรวจที่ต้องรับประทานสารทึบรังสี หรือสารกัมมันตรังสี
- ผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดในการจัดท่าที่เหมาะสมสำหรับการตรวจ